วันอาทิตย์, ตุลาคม 21, 2555

สัมภาษณ์วง FTISLAND วงที่อยากจะให้ผู้คนฟังเพลงที่เกิดจากฝีมือของพวกเขาเอง!


ในเดือนมิถุนายน ปี 2007 วงการ K-POP ได้เปิดตัววงดนตรีอย่าง FTISLAND ด้วยเพลง Love Sick เพลงของพวกเขาขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในรายการเพลง ยอดขายได้มากกว่า 80,000
แผ่น หลังจากการเดบิวต์ในครั้งนั้นพวกเขาก็ได้สร้างเพลงฮิตอีกหลายๆ เพลงตามมา ไม่ว่าจะเป็น Until You Return (2008), Love Love Love (2010) และล่าสุด Severely (2012)


ตอนนี้วง FTISLAND เติบโตขึ้นในวงการเป็นเวลาเกือบหกปีแล้ว

ในวันที่ 10 กันยายน FTISLAND ได้เปิดตัวอัลบั้มใหม่ Five Treasure Box เป็นอัลบั้มที่เต็มไปด้วยความล้ำค่าเพราะสมาชิก FTISLAND ได้มีส่วนร่วมในอัลบั้มนี้ ฮงกี เขียนเนื้อเพลง Stay With Me ขณะที่จงฮุนแต่งทำนองเพลง U และอีกห้าเพลงคือ Paper Plane, Wanna Go, Life, Compass และ Let It Go ในอัลบั้มนี้ยังได้มีการเขียนเพลงจากอัลบั้มภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาเกาหลี ซึ่งเป็นเพลงที่สมาชิกทั้งห้าได้แต่งเนื้องเพลงและเขียนทำนอง


"เราเชื่อว่าการร้องเพลงของเราเองคือคำตอบ และนั่นเป็นเส้นทางที่เราควรเดิน" แจจินกล่าว
จากความผูกพันธ์และประสบการณ์ที่เก็บเกี่ยวมา พวกเขาได้แสดงมันออกมาผ่านผลงานที่แสดงให้ในอัลบั้มนี้ มันแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างเพลงที่แตกขึ้นเองกับเพลงในอัลบั้มแรก หวังว่าทุกรายการเพลงจะสามารถแสดงเพลงของพวกเขาให้เห็นได้

"เราอยากจะแสดงเพลงของพวกเราต่อหน้าแฟนๆ ในเกาหลี และพวกเราอยากจะแบ่งปันความรู้สึกของพวกเราว่าเป็นยังไง" สมากชิก FTISLAND กล่าว


แจจินพูดขึ้นหลังจากแสดงเพลงของตัวเองอย่าง Paper Plane ว่า "นี่เป้นครั้งแรกที่ผมได้แสดงเพลงที่ผมเขียนเป็นภาษาเกาหลี ผมรู้สึกมีความสุขมากๆ ครับ"

นั่นเป็นเหตุผลว่าพวกเขาถึงใส่ใจกับเพลงที่ตัวเองเขียนอย่างมากและมันเป็น ความสามารถที่แสดงให้เห็นของวงๆ นี้ เหล่าสมากชิกยังคงเป็นวัยรุ่นเมื่อตอนที่พวกเขาได้เดบิวต์ และกลายเป็นที่นิยมจากการเป็นทั้งวงไอดอลและวงดนตรีไปพร้อมๆ กัน แต่เพราะว่าเหล่าสมาชิก FTISLAND มีหน้าตาที่หล่อเหลา มันจึงทำให้ทักษธและความสามารถมักจะถูกมองข้ามอยู่เสมอ เหล่าสมาชิกไม่ย่อท้อต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของทักษะความสามารถของพวก เขา แต่ทว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะลบล้างอคติของผู้คนที่มองว่าพวกเขาเป็นแค่เพียงวง ไอดอลที่มีเพียงเรื่องของหน้าตา


ซึงฮยอนกล่าวว่า "มันก็เหมือนๆ กันทุกการสัมภาษณ์ พวกเราพูดเรื่องเกี่ยวกับงานเพลงเยอะมาก และพูดเรื่องเกี่ยวกับเรื่องของความสัมพันธ์นิดหน่อย แต่ว่าพิธีกรที่สัมภาษณ์เรามักจะมุ่งเกี่ยวกับเรื่องของความสัมพันธ์มากกว่า เสียอีกครับ ผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แต่เราอยากจะพูดเรื่องเกี่ยวกับดนตรีของพวกเราก่อนสิ่งอื่นใด"

"มันเป็นเรื่องจริงที่พวกเราไม่มีทักษะตอนเริ่มต้น และเรารู้มาตลอด แต่ตอนนี้ล่ะ? เราเป็นวงมาหกปีแล้วครับ ผมสามารถพูดได้เลยว่าพวกเราเติบโตขึ้นมากหลังจากเราเริ่มต้น เรามั่นใจว่าเราไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าวงอื่นๆ ในเกาหลีด้วยทักษะความสามารถของเรา"

มันเป็นการยากที่จะหาอัลบั้มของ FTISLAND ที่ประกอบไปด้วยงานที่พวกเขาเขียนมันขึ้นด้วยตัวเอง นอกเหนือจากงานเพลงในญี่ปุ่น อัลบั้มที่เปิดตัวในญี่ปุ่น มักจะเป็นเพลงที่แต่งขึ้นด้วยฝีมือของเหล่าสมาชิกเอง พวกเขาบางคนได้กล่าวว่า วงของพวกเขาเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นมากกว่าที่เกาหลีเสียอีก นั่นเป็นเพราะเหล่าสมาชิกได้มีส่วนร่วมในอัลบั้มของพวกเขา ทำไมทิศทางของวงถึงได้แตกต่างกันอย่างมากในประเทศที่แตกต่างกัน?


"ผมคิดว่าในเกาหลีมีสิ่งที่เป็นกระแสและปัจจัยบางอย่างที่ทำให้เพลงดังอย่าง มาก ในทางตรงกันข้าม ที่ญี่ปุ่นไม่มีกระแสตายตัว ผมคิดอีกว่าเพราะเป็นประเทศที่ไม่ใช่บ้านเกิดของเราทำให้เรามีความกล้าที่จะ เป็นตัวตนของเราทั้งหมด มันทำให้พวกเราเปล่งประกาย และมันยังดีกว่าอีกด้วยที่พวกเราสามรถเล่นคอนเสิร์ตสดๆ มากกว่าจะเป็นการบันทึกตามรายการเพลง" มินฮวานกล่าว

แจจินเสริมว่า " แน่นอนพวกเราอยากจะร้องเพลงของพวกเราเองในเกาหลี หากผู้คนซึ่งได้ฟังเพลงที่พวกเราเขียนเองและบอกว่ามันแย่นะ หลังจากนั้นเราจะมองกลับมาที่พวกเราเองว่าเป็นเพราะอะไร อย่างไรก็ตามเราไม่เคยได้รับโอกาสที่จะเอาเพลงของเราไปให้คนอื่นๆ ได้ฟังกัน ตอนนี้แม้จะได้รับโอกาสทำเพลงใส่ในอัลบั้มของตัวเองแล้ว แต่เรายังไม่สามารถโปรโมทมันได้อยู่ดี"

เป็นโชคดีที่แฟนๆ ตอบรับเพลงที่พวกเขาแต่งเองไปในทางที่ค่อนข้างดี "เพลงนี่ดีมากๆ เลย" และ "เพลงของพวกเขานี่เป็นอัลบั้มที่ยอดเยี่ยมมากเลยนะ" แฟนๆ กล่าวให้กำลังใจเหล่าสมาชิก เติมเต็มกำลังใจให้พวกเขาเขียนเพลงของตัวเองอีกในอัลบั้มต่อๆ ไป


ความกังวลใจของสมาชิก FTISLAND อีกอย่างก็คือการที่พวกเขากำลังอยู่บนเส้นทางระหว่างวงไอดอลและวงดนตรี แจจินเปรียบเทียบวงเป็นระดับ

"พวกเราเริ่มหยุดกับด้านการเป็นวงไอดอลอย่างหนักกว่าวงอื่นๆ แต่ว่าตอนนี้ผมรู้สึกว่าพวกเรากำลังอยู่ในระหว่างสองด้าน ผมคิดอยู่เสมอๆ ว่า ในระดับหนึ่ง นี่อาจเป็นการเรียนรู้การเป็นวงดนตรีอยู่ก็ได้ แน่นอนว่าในจุดนั้นอาจจะถึงจุดที่ว่าพวกเราทั้งหมดแก่แล้ว และพวกเราไม่สามารถเป็นวงไอดอลได้อีกต่อไปแล้ว (หัวเราะ)" แจจินกล่าว
ฮงกีได้พูดในรายการ You and I เมื่อเร็วๆ นี้ว่า " พวกเราอยากจะเดินบนเส้นทางระหว่างวงไอดอลและวงดนตรี พวกเราทำงานอย่างหนักเพื่อบุกเบิกเส้นทางที่ไม่มีใครทำมาก่อน"

หัวหน้าวงและมือกีต้าร์ จงฮุน แสดงความเห็นด้วย

"FTISLAND อยากจะเดินอยู่ตรงกลาง คำว่า ไอดอล จริงๆแล้วไม่ได้มีความหมายในเชิงลบ พวกเรารอยากจะเก็บความรู้สึกแบบนี้ไว้ และยังเป็นการเรียนรู้สำหรับทักษะของพวกเราในการเป็นวงดนตรีด้วย หลังจากนี้พวกเราอยากจะกลายไปเป็นวงที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครในวงการ K-POP ครับ"

Source : enewsworld

Trans : JooJY @ FNC2GETHER

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น