[TH-Trans // Interview] CEO FNC Ent, ฮันซึงโฮ
พูดถึง
Credit: etomedia
Eng –Trans : FTIslandFacts
Thai – Trans : FT_FamilyThai -----------------------------------------------
FTIsland กลายเป็นวงดนตรีที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ในเอเชีย จากการเดบิวต์ในปี 2007 ด้วยเพลง 'Love sick'
และยังมีเพลงฮิตอีกมากมายเช่น 'thunder', 'after love', 'love love love',
'severely', 'I wish' อื่นๆ
ฉันได้พบกับท่านฮันซึงโฮ ซีอีโอของ
FNC Entertainment
คนที่แนะนำรูปแบบใหม่ของวงดนตรีไอดอลในกลุ่มอุตสาหกรรมทางเคป็อปที่ไอดอล
กลุ่มเต้นคือหัวใจสำคัญ
และได้สร้างเอฟทีไอส์แลนด์ที่กลายเป็นกระแสฮันรยูของวงดนตรีแนวเคป๊อป
ฉันได้ยินเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตจากเขา
ร่วมถึงเรื่องราวในปัจจุบันและอนาคตของพวกเขา
"ผมกำลังกลับมาจากการการเดินทางทำธุรกิจที่ประเทศญี่ปุ่นและผมพบว่าเด็กๆ
ทั้งหลายได้รับความรักในฐานะวงดนตรีและเป็นผู้นำแห่งวงดนตรี
ผมคิดว่าทำไมพวกเราไม่มีแบบนั้นล่ะ
เช่นเดียวกับวิธีการที่พวกเขากลายเป็นวงร้องและเต้นเพราะความสนใจในการเต้น
ตั้งแต่เล็กๆ
ผมสร้างเอฟทีไอส์แลนด์และคิดว่าพวกเขาจะกลายเป็นวงดนตรีถ้าผมฝึกฝนเด็กๆที่
สนใจในการเล่นดนตรี ผมไม่รู้ว่าผมรู้สึกกลัวไหม
แต่ผมมีความมั่นใจว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จ 100%
ดังนั้นผมเลยไม่ได้คิดถึงความล้มเหลวครับ"
เฉกเช่นเดียวกับความมั่นใจของเขา
เอฟทีไอส์แลนด์ได้รับความรักมากมายและได้อันดับหนึ่งในรายการเพลงต่างๆจากเพ
ลงเดบิวต์ของพวกเขา 'Love sick'
ที่พวกเขาทำการเดบิวต์ในระยะเวลาแค่สามอาทิตย์เท่านั้น
เอฟทีไอส์แลนด์ได้ผ่านช่วงเวลาที่อันตรายพร้อมกับโชคชะตาที่เลวร้ายของพวก
เขาอย่างต่อเนื่อง
"มันยากที่จะประสบความสำเร็จกับอัลบั้มแรก
แต่พวกเขาก็ทำมันได้ดีด้วยการคว้าอันดับหนึ่งในเพลง 'Love sick'
และตามมาด้วยเพลง 'thunder'
ต่อจากนั้นเป็นเพราะผลตอบรับที่ไม่ค่อยดีในอัลบั้มที่สอง
พวกเขาเสร็จสิ้นกิจกรรมด้วยความรวดเร็วและเตรียมตัวสำหรับงานละคร
แต่เพราะงานละครได้ถูกยกเลิกอย่างกระทันหัน
นั้นกลายเป็นช่วงที่ไม่มีแผนการอะไร หลังจากนั้น
มีสมาชิกคนหนึ่งได้ลาออกจากวง
และเอฟทีไอส์แลนด์ต้องเผชิญกับช่วงระยะเวลาที่เลวร้าย"
ในขณะที่ย้อนกลับไปคิดถึงช่วงเวลานั้น
เพราะความยากลำบาก การคัมแบ็คของเอฟทีไอส์แลนด์หลังจากการตกต่ำที่ยาวนาน ก็ทำให้ฮันซึงโฮได้รับสิ่งที่ยิ่งใหญ่
"ผมคิดว่าพวกเขาจะไม่สามารถรอดพ้นได้ถ้าพวกเขาไม่ได้รับการตอบรับอย่างมาก
ที่สุดในเอเชีย พวกเราพยายามที่จะทำการเดบิวต์ที่ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
และผลลัพท์ที่ได้คืออันดับหนึ่งอีกครั้งที่เกาหลีจากเพลง 'love love love'
อันดับหนึ่งในโอริกอตชาร์ตและคอนเสิร์ตที่บูโดกัน
นั้นทำให้ผมสัมผัสได้มากจริงๆครับ
ผมรู้สึกมั่นใจว่าพวกเขาทำมันได้ดีแต่มันน่าตื่นเต้นจริงๆเมื่อผมเห็นมัน
เกิดขึ้นต่อหน้าต่อหน้าผม"
พวกเขาเป็นวงฮันรยูที่ดีที่สุดแต่เพราะเอฟทีไอส์แลนด์มีภาพลักษณ์ที่พวกเขา
ถูกสร้างจากการวางแผนเป็นวงดนตรีไอดอล
พวกเขาได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์มากมายในการเล่นดนตรีของพวกเขา
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซีอีโอฮัน กล่าวว่า
"แน่นอนที่ว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่า พวกเขาไม่สามารถเล่นดนตรี
แต่พวกเขา (คนทั่วไป) ไม่คิดว่าความสามารถของเอฟทีไอส์แลนด์ได้พัฒนาขึ้น"
และนั้น "ในกรณีของมือกลองอย่างชเวมินฮวาน ในระหว่างการอัดอัลบั้มที่ 1 และ
2 ศิลปินที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นกล่าวยกย่องเขาว่า
"เขามีความสามารถเทียบเท่ากับคนเก่งๆ (มืออาชีพ) ในหลายๆประเทศ"
ต่อจากนั้น "ถึงแม้ว่าความเข้าใจผิดในตอนนั้นได้จากไปแล้วในตอนนี้
แต่ในส่วนของการออกอากาศที่วงดนตรีต่างๆทำได้เพียงแค่แฮนด์ซิง
คนทั่วไปทำเพียงหยิบยกปัญหาขึ้นมานำเสนอให้กับเอฟทีไอส์แลนด์" และสิ่งนั้น "
ผมคิดว่าการที่จะทำวงดนตรีในเกาหลี
พวกเขาต้องอาศัยอยู่ด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าที่ถูกจัดเตรียมไว้
(ต้องทำตามกระแสนิยม)
ผมมักจะบอกพวกเขาเสมอว่าพวกเขาต้องยอมรับมันและสนุกไปกับมัน
และในอนาคตพวกเขาจะได้รับเรตติ้งที่เหมาะสม
นั้นคือเหตุผลว่าทำไมสมาชิกถึงเล่นดนตรีด้วยตัวพวกเขาเองในระหว่างการอัด
เพลง ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครคิดถึงพวกเขาก็ตาม
(ไม่มีใครรู้ว่าเอฟทีเป็นคนอัดเสียงเพลงด้วยตัวของพวกเขาเอง)
ถ้ามันเป็นเพราะสิ่งนี้?
ผลตอบรับจากผู้คนมากมายที่มีต่อเอฟทีไอส์แลนด์จะเปลี่ยนไป
ซึ่งแตกต่างจากมุมมองในการวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงแรก
พวกเชาจะแสดงให้เห็นถึงผลตอบรับว่าพวกเขาประหลาดใจที่ทักษะในการเล่นดนตรี
ของเอฟทีไอส์แลนด์ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องและดีขึ้น
"คอนเสิร์ตมากมายและการอัดรายการต่างๆ
ผมคิดว่ามันชัดเจนที่ว่าพวกเขาพัฒนาเพราะการฝึกซ้อมอย่างหนักของพวกเขา
นั้นไม่มีทางลัดหรือหนทางให้เดินกลับ
พวกเขาผ่านสิ่งต่างๆมากมายจากเกาหลีและแน่นอนในเอเชีย
และนั้นทำให้ทักษะของพวกเขาพัฒนาขึ้นระหว่างนั้น
ดังนั้นพวกเราควรจะขอบคุณสำหรับสิ่งที่จัดเตรียมไว้
ถ้าพวกเขาไม่ได้รับความนิยมเลย
มันเป็นอะไรที่ยากมากที่จะมีคอนเสิร์ตสักครั้งต่อปี"
แม้ว่าเขาจะมอบความรักมากมายให้กับชื่อที่ถูกเรียกขึ้น
"ลูกชายคนแรกที่แสนซุกซน, เอฟทีไอส์แลนด์"
แฟนๆของเอฟทีไอส์แลนด์ต่างแสดงความผิดหวังกับซีอีโอฮันซึงโฮ
สำหรับการดูแลที่แตกต่างกับวงรุ่นน้องอย่างซีเอ็นบลู
จากสิ่งนี้เขากล่าวว่า
"นั้นเป็นเพราะความผิดพลาดมากมายที่เกิดขึ้นเพราะพวกเขาเป็นวงแรกของบริษัท
พวกเราเพียงแค่เพิ่มเติมสิ่งที่ขาดหายไปจากเอฟทีไอส์แลนด์ในระหว่างกิจกรรม
ของพวกเขา แต่ผมคิดว่าแฟนๆคงเข้าใจผิดครับ" และอธิบายต่อว่า"
แตกต่างจากศิลปินอื่นๆ เอฟทีไอส์แลนด์ต้องการอิสระมากกว่า
ดังนั้นพวกเราเลยให้พวกเขาวางแผนคอนเสิร์ตด้วยตัวพวกเขาเอง
แต่ถ้ามีบางส่วนที่ยังผิดพลาดหรือขาดหายไป แฟนๆจะคิดว่า
"บริษัทไม่ดูแลพวกเขา"
เพราะเขาผ่านสิ่งต่างๆมากมายเพื่อสร้างวงฮันรยูที่ประสบความสำเร็จอย่าง
FTIsland เป้าหมายของเขาที่มีต่อพวกเขา (เอฟที) ต้องยิ่งใหญ่เช่นกัน
แต่เมื่อฉันถามเขาถึงเป้าหมายของเอฟทีไอส์แลนด์
ฮันซึงโฮตอบอย่างไม่คาดคิดว่า
"ผมอยากให้พวกเขาสร้างสรรค์ดนตรีให้ยาวนานที่สุด"
"เพราะพวกเขาเป็นวงแรกที่ผมสร้างขึ้น
ดังนั้นผมคิดว่าผมจะรู้สึกยินดีมากๆถ้าพวกเขาทำกิจกรรมภายใต้ชื่อ
"FTISLAND" อย่างยาวนาน ถ้าพวกเขาทำงานอย่างหนัก ซึ่งแตกต่างจากวงเต้น
วงดนตรีสามารถทำการแสดงต่อไปเรื่อยๆ
ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกเขาจะทำกิจกรรมเดี่ยวของพวกเขาในอนาคต
ผมหวังว่าพวกเขายังจะดำเนินกิจกรรมในฐานะ FTIsland ครับ"
▶เสน่ห์ที่ไม่คาดคิดของเอฟทีไอส์แลนด์ ในสายตาของซีอีโอ ฮันซึงโฮ
ลีฮงกี = "เขาเหมือนเด็กมากๆ จริงๆแล้วมันเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยคาดคิด
เพราะเขาร่าเริงและสนุกสนาน ผมคิดว่าเขาจะเหมือนกับเด็กที่น่ารำคาญ
แต่ผมคิดผิด เขาบ่นให้ผมฟังบ่อยๆ
แต่หนึ่งคนที่เล่นกับลูกของผมได้ดีที่สุดคือฮงกี
เมื่อผมเห็นเขาเล่นกับลูกของผม
ผมคิดว่าเขาเป็นคนใจดีและเป็นคนที่ห่วงใยและเอาใจใส่ในสายตาของเด็กๆครับ"
ชเวจงฮุน = "เขาเป็นคนที่อ่อนไหวมากๆและมีน้ำตามากมาย
จงฮุนเป็นหนึ่งคนที่ร้องไห้เมื่อพวกเขาถูกดุ เมื่อผมกำลังดุด่า
ถ้าผมเห็นจงฮุนร้องไห้
ถึงแม้ว่าผมจะมีบางเรื่องที่ต้องดุด่าอีกแต่เขามักจะทำให้ผมจบมันด้วยความ
รวดเร็วครับ" (ท่านประธานเห็นน้ำตาจงฮุนแล้วดุด่าไม่ออกค่ะ)
ลีแจจิน = "แฟนๆทุกคนก็น่าจะรู้ดีเช่นกันครับ
แต่เขาเป็นคนที่จะจัดการเกี่ยวกับงานและสนุกไปกับมัน
และเขารู้วิธีที่จะแสดงออกในสถานการณ์ต่างๆ อย่างไม่คาดคิด,
เขาพูดในสิ่งที่เขาต้องการถึงแม้ว่าเขาดูเหมือนจะรับฟังทุกอย่าง
ผมคิดว่าเขาพยายามอย่างมากที่จะโตเป็นผู้ใหญ่่ในช่วงนี้
ผมเห็นเขาเป็นเพียงเด็กผู้ชายคนหนึ่ง
แต่ในบางครั้งผมก็คิดว่าเขากลายเป็นผู้ใหญ่แล้วเช่นกัน"
ชเวมินฮวาน =
"ดูเหมือนว่าเขาจะมีความน่ารักมากมายเพราะเขาเป็นน้องเล็กแต่เขาเป็นคนนิ่งๆ
เขาเป็นคนเก็บอารมณ์อยู่ตลอด เขาไม่ค่อยมีลักษณะต่างๆเหมือนกับมักเน่
ถ้ามินฮวานมีแฟนในอนาคต
ผมอาจจะประหลาดใจในลักษณะท่าทางที่แตกต่่างออกไปไหมนะ?"
ซงซึงฮยอน = " ผมคิดว่าเขาเป็นคนที่สร้างบรรยากาศให้กับเอฟทีไอส์แลนด์
เขาดีมากๆในการผูกมิตร มันคงเป็นอะไรที่ยากสำหรับเขาในการเป็นสมาชิกใหม่
แต่ผมคิดว่าเขาสามารถทำมันได้ดี
เขาเป็นเช่นดั่งเด็กน้อยที่บริสุทธิ์และเด็กดีครับ"
Credit: etomedia
Eng –Trans : FTIslandFacts
Thai – Trans : FT_FamilyThai