วันพุธ, พฤษภาคม 09, 2555

บทสัมภาษณ์ โอวอนบิน จาก นิตยสาร E-POP




หากคุณไม่ได้เป็นคนที่หลงใหลในเสียงเพลงแล้วล่ะก็ คุณคิดว่าคุณจะเป็นคนแบบไหน แล้วดนตรีเปลียนแปลงอะไรคุณบ้างคะ ?

ผมไม่ใช่คนพิเศษอะไรมาก่อนครับ เป็นแค่นักเรียนธรรมดา ออกจะเงียบๆด้วย บางทีเพราะว่าผมไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ ดนตรีก็เลยเป็นสิ่งหนึ่งที่จะอธิบายตัวผมได้ ผมทำเพลงในแบบที่เป็นตัวผม บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ด้วย การแต่งเพลงเป็นวิธีที่ผมจะใช้อธิบายตัวเองครับ



ถ้าหากไม่ได้ทำงานในวงการดนตรี คุณคิดว่าอนาคตของคุณจะเป็นแบบไหนคะ ?

ผมอยากจะเป็นนักร้องตั้งแต่เรียนมัธยมครับ จริงแล้วผมมีความใฝ่ฝันแบบนี้ตั้งแต่ประถมเลยล่ะ ฮ่า ! เพราะว่าตอนนั้นเนี่ย เพื่อนๆก็ดูทีวีแล้วก็บอกว่านักร้องเนี่ยหล่อมากเลยนะ แต่ผมไม่ได้คิดว่าเค้าหล่อเลย ผมไม่ได้คิดว่าในวงการเพลงมันจะดีอะไรหรอกนะครับแต่ว่าผมแค่รู้สึกว่าผมก็ทำได้เหมือนกัน การที่ใฝ่ฝันว่าจะเป็นนักร้องในตอนนั้น มันหมายถึงว่าผมจะสามารถอธิบายความเป็นตัวผมและเสียงของผมได้น่ะครับ



ตอนที่เข้าสู่วงการเพลงแล้ว รู้สึกเสียดายอนาคตบ้างไหมคะ ?

ครับ ! ตอนที่ผมเป็นเด็กฝึกหัด ผมคิดว่าผมยังไม่ดีพอเลย เมื่อเทียบกับคนอื่น ผมไม่ได้คิดว่าคนแบบผมจะเกิดมาเพื่อเป็นศิลปิน ความรู้สึกในการทำงานตอนนั้น เหมือนมันจะไม่ไหวแล้วน่ะครับ ผมคิดว่านักร้องส่วนใหญ่ก็คงมีความรู้สึกแบบนี้นะ ดังนั้นก็เลยจะต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอให้ตั้งใจในทางเดินที่ตัวเองเลือกครับ



ค้นพบตัวเองว่าชอบร้องเพลงตอนไหนคะ ?

ตอนที่ผมยังเด็กๆ ตอนนั้นยังเป็นเด็กฝึกหัดอยู่ครับ ยังไม่มีความคิดอะไรมาก จากใจเลยนะครับ ตอนนั้นน่ะ ผมตั้งใจอย่างมากเพื่อที่จะเป็นหนึ่งในวงเก่าของผม (FT ISLAND) เพราะว่าไม่อยากจะเป็นตัวถ่วงของวงครับ ปีหรือสองปีต่อมา ผมได้เดบิวต์ ผมเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเองในเรื่องเพลง และตอนนั้นก็เริ่มที่จะตัดสินใจว่าการทำวงดนตรีเนี่ยเหมาะกับผมจริงๆรึเปล่านะ ผมคิดว่าผมสามารถเปิดตัวเองให้กว้างขึ้นเพื่อจะรับดนตรีได้อีกหลายๆแนวนะครับ จากความคิดนั้นก็เลย ทำให้ผมมายืนอยู่ตรงนี้


สำหรับคุณแล้ว ดนตรีมีความหมายยังไงบ้างคะ?

จริงๆแล้วมันก็ยากจะอธิบายนะครับ เพราะดนตรีสำคัญสำหรับผมมาก ผมคิดว่าดนตรีจะเป็นทุกอย่างสำหรับผมตลอดไป ถ้าไม่มีดนตรี ก็คงไม่มีโอวอนบินเหมือนกันครับ



ลองอธิบายความเป็นตัวเอง สั้นๆหน่อยสิคะ

ผมเป็นคนค่อนข้างเงียบๆ และก็ไม่ค่อยช่างพูดเท่าไหร่ ผมชอบอยู่คนเดียวครับ



แต่ว่า จริงๆแล้วก็มีจิตวิญญาณความเป็นร็อคอยู่นี่นา แบบนี้ไม่ขัดแย้งกับบุคลิกเหรอคะ ?

ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกันนะ โดยเฉพาะเวลาที่เห็นฮงกีเล่นกีต้าร์บนเวที ผมู้สึกดีไปกับเค้าด้วยนะ ก็เลยอยากจะเล่นกีตาร์บนเวทีแบบนั้นบ้างน่ะครับ!



หลังจากลาออกจากวงมาแล้ว รู้สึกเขินๆบ้างไหมคะ ? เคยมีเรื่องหน้าแตกอะไรบนเวทีบ้างไหม ?

ครับ! เขินมากเลยล่ะครับ ก่อนที่จะขึ้นเวทีนี่ หัวใจเต้นแรงมากเลย แม้แต่ตอนร้องเพลงก็ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นไปด้วยนะ! เรื่องหน้าแตกบนเวที ก็มีตอนซ้อมครับ ร้องผิดคีย์ ส่วนตอนแสดงก็ทำได้แบบเพอร์เฟคเลย เพราะผมเป็นพวก ถ้าเขินแล้วจะทำได้ดีกว่าปกติน่ะครับ!



มีอัลบั้มหรือนักร้องคนไหนเป็นแรงบันดาลใจมากที่สุดคะ ?

จอห์น เมเยอร์ครับ! เขาสามารถแต่งเพลงได้ด้วย เล่นกีต้าร์แจ๊ซก็เก่งมากเลยนะ! แล้วก็เจมส์ บลันท์ เพลงที่เขาแต่งนี่ซึ้งมากครับ มันยากมากเลยที่จะอธิบายเป็นคำๆได้แต่ว่าเวลาที่ผมอยู่บนเวที ผมจะมีความรู้สีกที่กระตุ้นให้ทำออกมาให้ดีที่สุด เป็นสิ่งที่ทำให้ผมอยากจะอยู่บนเวทีครับ



แล้วบุคลิกระหว่างบนเวทีกับหลังเวที ต่างกันมากไหมคะ ?

ครับ ผมค่อนข้างเงียบๆนะถ้าไม่ได้อยู่บนเวที แต่หลังจากมาเป็นนักร้องแล้ว ผมหวังว่าผมจะสามารถใกล้ชิดกับแฟนๆได้มากขึ้น และสร้างรอยยิ้มให้แฟนๆของผมครับ และผมก็หวังว่าบุคลิกของผมจะร่าเริงขึ้นด้วยครับ.

 
Cr. Source : e-pop magazine
Translated 
Chinese > English : sotseine@happy_island @joylovehongki
English > Thai : ohonebin.com

กรุณานำออกไปพร้อมกับเครดิตและห้ามดัดแปลงหรือแก้ไขส่วนใดส่วนหนึ่งของบทความแปล


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น